หนังตะลุงเป็นการเล่าเรื่องราวที่ผูกร้อยเป็นนิยาย ดำเนินเรื่องด้วยบทร้อยกรองที่ขับร้องเป็นสำเนียงท้องถิ่น หรือที่เรียกกันว่าการ “ว่าบท” มีบทสนทนาแทรกเป็นระยะและใช้การแสดงเงาบนจอผ้าเป็นสิ่งดึงดูดสายตาของผู้ชม ซึ่งการว่าบท การสนทนา และการแสดงเงานี้ นายหนังตะลุง เป็นคนแสดงเองทั้งหมดอุปกรณ์ที่ใช้ในการแสดงหนังตะลุงที่สำคัญ ได้แก่ จอหนัง ไฟสำหรับใช้ส่องแสง เครื่องดนตรีหนังตะลุง ประกอบด้วย ปี่ใน โหม่ง ทับ กลองตุ๊ก ฉิ่ง และแตระ โดยมีนักดนตรีเรียกว่า “ลูกคู่” ทำหน้าที่บรรเลงขณะแสดง ในบรรดาเครื่องดนตรีทั้งหมด “ทับ” เป็นเครื่องกำกับจังหวะ และท่วงทำนองที่สำคัญที่สุด ผู้บรรเลงดนตรีชิ้นอื่นๆ ต้องคอยฟังและยักย้ายจังหวะตามเพลงทับ
 ส่วนรูปหนังที่ใช้ในการแสดงประกอบด้วย รูปฤๅษี รูปพระอิศวร 
รูปเจ้าเมือง-นางเมือง รูปพระเอก-นางเอก รูปเทวดา รูปยักษ์ รูปตัวตลก และรูปต่างๆ 
ซึ่งจะเก็บไว้ใน “แผงหนัง” โดยในส่วนของตัวหนังนี้ “ตัวตลกหนังตะลุง” 
เป็นตัวละครที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นตัวละครที่ “ขาดไม่ได้” 
สำหรับการแสดงหนังตะลุง บทตลกคือเสน่ห์ หรือสีสัน 
ที่นายหนังจะสร้างความประทับใจให้กับคนดู เมื่อการแสดงจบลง สิ่งที่ผู้ชมจำได้ 
และยังเก็บไปเล่าต่อก็ คือบทตลก นายหนังตะลุงคนใดที่สามารถสร้างตัวตลกได้มี 
ชีวิตชีวาและน่าประทับใจ สามารถทำให้ผู้ชมนำบทตลก นั้นไปเล่าขานต่อได้ไม่รู้จบ 
ก็ถือว่าเป็นนายหนังที่ประสบ ความสำเร็จในอาชีพโดยแท้จริง
ส่วนรูปหนังที่ใช้ในการแสดงประกอบด้วย รูปฤๅษี รูปพระอิศวร 
รูปเจ้าเมือง-นางเมือง รูปพระเอก-นางเอก รูปเทวดา รูปยักษ์ รูปตัวตลก และรูปต่างๆ 
ซึ่งจะเก็บไว้ใน “แผงหนัง” โดยในส่วนของตัวหนังนี้ “ตัวตลกหนังตะลุง” 
เป็นตัวละครที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นตัวละครที่ “ขาดไม่ได้” 
สำหรับการแสดงหนังตะลุง บทตลกคือเสน่ห์ หรือสีสัน 
ที่นายหนังจะสร้างความประทับใจให้กับคนดู เมื่อการแสดงจบลง สิ่งที่ผู้ชมจำได้ 
และยังเก็บไปเล่าต่อก็ คือบทตลก นายหนังตะลุงคนใดที่สามารถสร้างตัวตลกได้มี 
ชีวิตชีวาและน่าประทับใจ สามารถทำให้ผู้ชมนำบทตลก นั้นไปเล่าขานต่อได้ไม่รู้จบ 
ก็ถือว่าเป็นนายหนังที่ประสบ ความสำเร็จในอาชีพโดยแท้จริง

 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น